เรียบเรียงโดย : นางศิวพร เฉลิมศรี นักภาษาโบราณชำนาญการพิเศษ
จังหวัดอุบลราชธานี ดินแดนแห่งแม่น้ำมูลและอารยธรรมอีสานใต้ เป็นที่ตั้งของหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงเราเข้ากับประวัติศาสตร์ คือ จารึกวัดใต้เทิง ๑ และ ๒ ซึ่งถูกค้นพบที่วัดใต้เทิง (ปัจจุบันคือ วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) ใจกลางเมืองอุบลราชธานี จารึกนี้เป็นกระจกสะท้อนความเชื่อ ภาษา และการปกครองของอาณาจักรในอดีต จารึกทั้งสองหลักนี้เป็นจารึกในสมัยไทย-ลาว หรือสมัยล้านช้าง ที่มีอิทธิพลในภาคอีสาน:
จารึกวัดใต้เทิง ๑ เขียนด้วยอักษรธรรมอีสาน และภาษาไทย สลักบนไม้สักทอง มีเนื้อหากล่าวถึงการ สร้างพระวิหารและพัทธสีมา (เขตแดนศักดิ์สิทธิ์) เมื่อ จุลศักราช ๑๑๙๒ (พ.ศ. ๒๓๗๓) โดยมี "อรรควรราชครูปุสสีตธรรมวงศาเจ้า" เป็นประธานในการสร้าง
จารึกวัดใต้เทิง ๒ เขียนด้วยอักษรธรรมอีสาน และภาษาไทย สลักบนศิลาหินทราย มีอายุใกล้เคียงกันคือ พุทธศักราช ๒๓๗๗ เนื้อหาเป็นการกล่าวถึงการสร้างพระพุทธรูป โดย "สมเด็จอรรควรราชครูเจ้า" ร่วมกับกลุ่มศรัทธา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี
จารึกวัดใต้เทิงทั้งสองหลักนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์และภาษาอีสาน เพราะเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงปีศักราชที่แน่นอน และความพยายามในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์และผู้มีอำนาจในเขตเมืองอุบลราชธานีในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เนื้อหาที่ปรากฎในจารึกทำให้เราเห็นถึงบทบาทของพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำทางศาสนาและสังคม นอกจากนี้ จารึกยังเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของอักษรธรรมอีสาน ที่ใช้บันทึกภาษาไทย แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการเขียน การสะกด และคำศัพท์เฉพาะถิ่นของภาคอีสาน การศึกษาจารึกนี้จึงช่วยให้นักประวัติศาสตร์และนักภาษาศาสตร์เข้าใจถึง ความต่อเนื่องทางวัฒนธรรมและภาษาในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
บรรณานุกรม
จารึกในประเทศไทย เล่ม ๕ อักษรขอม อักษรธรรม และอักษรไทย พุทธศตวรรษที่ ๑๙ - ๒๔. กรุงเทพฯ: หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๒๙.